ตามลุ้น 3 ประเด็นผ่อนคลายมาตรการโควิดในเร็ว ๆ นี้ พร้อมวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในอนาคต!
เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้วที่โควิดสายพันธุ์ใหม่อย่าง ‘โอมิครอน’ ได้ระบาดเข้ามาแทนที่เดลตาซึ่งเคยเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั้งในไทยและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามก็ดูเหมือนว่าอาการของการติดเชื้อโควิดโอมิครอนจะไม่ได้รุนแรงมากเท่ากับสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ผ่านมา แต่รัฐบาลในแต่ละประเทศก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ อย่างในประเทศไทยเองเมื่อเริ่มพบการติดเชื้อโอมิครอนในพื้นที่ ก็ได้มีการควบคุมมาตรการโควิดมากขึ้น เช่น ยกระดับเตือนภัย ระงับการเปิดประเทศโดยไม่ต้องกักตัว หรือ เลื่อนเปิดสถานบันเทิงเป็นต้น เพื่อเป็นการซื้อเวลาให้สาธารณสุขไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือกับโอมิครอน ซึ่งมาจนถึงตอนนี้จำนวนยอดผู้ติดเชื้อก็เริ่มจะทรงตัวและทางด้านสาธารณสุขเองก็มีความพร้อมในการรับมือเพิ่มขึ้น ดังนั้นศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ก็จะมีการปรับมาตรการในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีประเด็นอะไรให้เราลุ้นบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย!
1) ลดระดับเตือนภัยจาก 4 เป็นระดับ 3
เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เราคงทราบข่าวกันแล้วว่ากระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มมาตรการควบคุมโควิดในประเทศไทยให้มีระดับเตือนภัยอยู่ในระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ ซึ่งถือได้ว่าเป็นระดับเกือบสูงสุดแล้ว โดยมีคำแนะนำสำคัญที่ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้โควิดระบาดหนักอีกครั้ง เช่น งดเข้าสถานที่เสี่ยง ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด ขอความร่วมมือให้ Work From Home 50 – 80% และ ระงับการเดินทางเข้าประเทศแบบไม่ต้องกักตัว ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในไทยเริ่มทรงตัว เร็ว ๆ นี้เราก็อาจมีลุ้นว่าระดับเตือนภัยโควิดอาจลดลงมาเป็นระดับ 3 ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการออกไปทำกิจกรรมในที่สาธารณะเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังคงให้ประชาชนงดเข้าร่วมกิจกรรมในสถานที่เสี่ยงอยู่
2) เปิดระบบ Test & Go รับนักท่องเที่ยวอีกรอบ
ประเด็นนี้อาจทำให้คนไทยที่กำลังวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศหรือชาวต่างชาติที่อยากมาเที่ยวประเทศไทยได้มีลุ้นอีกรอบ เพราะหลังจากที่ได้มีการระงับระบบ Test & Go ซึ่งเป็นการเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว ก็ทำให้หลายคนต้องพับแผนในการเดินทางระหว่างประเทศไปก่อน ทั้งนี้การระงับ Test & Go ที่ผ่านมาก็ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยและทำให้ไทยขาดโอกาสในการทำรายได้เข้าประเทศไทยในช่วง High Season ดังนั้นเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เสนอ ศบค.เพื่อให้มีการพิจารณาเปิดระบบ Test & Go อีกครั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เพราะเชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขสามารถบริหารและควบคุมได้ หากศบค. อนุมัติให้เปิดระบบ Test & Go อีกรอบ ก็อาจต้องมีระบบการคัดกรองที่เน้นหนามากขึ้น เพื่อป้องกันโอมิครอนให้ได้มากที่สุด
3) เพิ่มพื้นที่ Sandbox
พื้นที่ Sandbox หรือ พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ถือได้ว่าเป็น ‘ความหวัง’ ต้น ๆ ของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์โควิดมีความไม่แน่นอน เพราะ เป็นพื้นที่เดียวที่ประเทศไทยอนุญาตให้นักเดินทางจากต่างประเทศสามารถเดินทางข้ามาในพื้นที่ Sandbox ได้โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งจังหวัดภูเก็ตถือเป็นพื้นที่ Sandbox ที่แรกในประเทศไทย และในวันที่ 11 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการประกาศเพิ่มอีก 3 จังหวัด คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า) จังหวัดพังงา และ จังหวัดกระบี่ ให้กลายเป็นพื้นที่ Sandbox ด้วย ทั้งนี้หากศบค.เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการโควิดมากขึ้น ในอนาคตเราก็อาจจะเห็นพื้นที่ Sandbox ในจังหวัดอื่น ๆ ทั่วภูมิภาค ซึ่งจะเป็นโอกาสดีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในจังหวัดนั้น ๆ ให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง หลังจากซบเซามานาน
แน่นอนว่าการแพร่ระบาดของโอมิครอนก็ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วยเช่นกันโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกที่เป็นช่วงของการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมโอมิครอน ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายภาคส่วน เช่น ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจขนส่ง และ ธุรกิจด้านการส่งออก เป็นต้น อย่างธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้มีการรายงานว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3.4% จากเดิม 3.9% ซึ่งหากโอมิครอนในประเทศไทยไม่ได้มีความรุนแรงมาก เศรษฐกิจไทยก็อาจขยายตัวขึ้น อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ดี คือ รายได้จากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งในสถานการณ์ปกติแล้วรายได้จากภาคการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนราว 20% ต่อ GDP เลยทีเดียว ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้คาดการณ์ไว้ว่าในปี พ.ศ. 2565 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยไม่น้อยกว่า 10 ล้านคนและจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1.2 -1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งสวนทางกับที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินไว้ว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพียง 5.6 ล้านคนเท่านั้น ดังนั้นแล้วเศรษฐกิจไทยในปีพ.ศ. 2565 จะเป็นไปในทิศทางบวกหรือลบ ก็ขึ้นอยู่กับระดับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย การรับมือของสาธารณสุขไทยและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และ การดำเนินมาตรการของหน่วยงานรัฐบาลว่าจะมีประสิทธิภาพในการรับมือมากน้อยแค่ไหน
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเว็บไซต์
Workpoint Today https://workpointtoday.com/covid19-300/
Post Today https://www.posttoday.com/politic/news/673412
Prachachat
https://www.prachachat.net/general/news-835932
https://www.prachachat.net/tourism/news-845217
https://www.prachachat.net/finance/news-842278
TNN Thailand https://www.tnnthailand.com/news/covid19/102322/
PRD.go.th https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/33/iid/65196