เปิดตัวผู้ว่าฯที่แข็งแกร่งที่สุด! “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” เตรียมพร้อมปลุกกรุงเทพฯให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับประชาชนทุกคน
หลังจากการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมานี้ ผู้สมัครเลือกตั้งพรรคอิสระ “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” ก็ได้คว้าชัยชนะจากเสียงประชาชนชาวกรุงเทพฯ ไปด้วยคะแนน 1.38 ล้านเสียงสูงสุดในประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่าเป็นชัยชนะที่น่าภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเสียงของประชาชนที่เลือกโดยประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยโดยแท้จริง แม้ว่าในช่วงสัปดาห์ใกล้วันเลือกตั้ง ผู้สมัครบางพรรคจะใช้วิธีการหาเสียงแนวอนุรักษ์นิยมปลุกเร้าประชาชนเพื่อสร้างความเกลียดชังในสโลแกนที่ว่า “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” ซึ่งประโยคนี้เคยถูกใช้เพื่อต่อต้าน “ระบอบทักษิณ” นั่นเอง แต่ด้วยสไตล์การเข้าถึงประชาชนที่ง่ายและวิสัยทัศน์ที่ถูกใจคนรุ่นใหม่ ชัชชาติก็สามารถคว้าชัยชนะด้วยคะแนนนำสูงสุดทุกเขตทั่วกรุงเทพมหานครไปโดยปริยาย ซึ่งเหตุผลทำไมชาวกรุงเทพฯต่างเทคะแนนให้คุณชัชชาติมากขนาดนี้ ทาง WiSE&OK สรุปประเด็นที่สำคัญทั้งหมด 3 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1.ประกาศลงสมัครผู้ว่าราชการ 2 ปี ก่อนถึงวันสมัครเลือกตั้ง
แน่นอนว่าการเปิดตัวก่อน ย่อมมีชัยไปมากกว่าครึ่ง ซึ่งคุณชัชชาติ ก็ได้ประกาศตัวตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 แล้วว่าเขาต้องการลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจปัญหาและข้อร้องเรียนของประชาชนทันที โดยที่ไม่ต้องรอโปรโมทตัวเองในช่วงระหว่างหาเสียง
2.การประกาศตัวเป็นผู้สมัครอิสระ
ถึงแม้จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทย แต่คุณชัชชาติก็เลือกที่จะลงสมัครในนามพรรคอิสระ ไร้สังกัดพรรคใดๆ ซึ่งทำให้เขาได้ฐานเสียงคะแนนจากกลุ่มประชาธิปไตย กลุ่มคนที่ชอบพรรคเพื่อไทย และกลุ่มที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนทำงาน มีความรู้รอบด้าน เคยทำงานทั้งภาครัฐและเอกชนทำให้เข้าใจปัญหาทุกฝ่าย และไม่อิงกับฝ่ายไหนเป็นพิเศษ จึงไม่แปลกที่จะได้คะแนนเสียงจากคนทุกกลุ่มในกรุงเทพมหานคร
3. 214 นโยบาย พร้อมเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯให้ดีขึ้นกว่าเดิม
นโยบายทั้งหมด 214 ข้อ คือนโยบายที่เกิดจากการลงพื้นที่จริงในการสำรวจปัญหาของประชาชนชาวกรุงเทพฯเป็นระยะเวลามากกว่า 2 ปีก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความปลอดภัย สุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ล้วนคัดสรรกลั่นกรองจากปัญหาจริงของชาวเมืองกรุงที่ขอให้แก้ไขเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม
แน่นอนว่าทุกคนอยากได้คนเก่งเข้ามาเป็นผู้นำ แต่การที่บ้านเมืองจะดีขึ้นได้ ผู้นำก็ควรจะมีวิสัยทัศน์ที่ดี รู้วิธีการบริหารอย่างมีคุณภาพ และรู้ถึงปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งหลังจากนี้เราก็ต้องมาติดตามกันต่อว่า 4 ปีต่อจากนี้ นโยบายชัชชาติจะสามารถทำได้คุ้มค่ากับคะแนนเสียง Lanslide ที่ได้มาในครั้งนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามจากการเลือกตั้งครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าชาวกรุงเทพฯ ต้องการความเปลี่ยนแปลงและผู้นำที่ใส่ใจประชาชนทุกคนจริงๆ ไม่ใช่หวังเพียงแต่ตำแหน่งจนลืมนึกถึงเสียงของประชาชน…
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเว็บไซต์
Thairath Online https://www.thairath.co.th/scoop/interview/2399536
BBC News Thailand https://www.bbc.com/thai/thailand-61543908
Workpoint Today https://workpointtoday.com/explainer-landslide/