มัดรวม 4 หนังฮอลลีวูดเติมไฟในการทำงาน ที่ชาวออฟฟิศและมนุษย์เงินเดือนควรดู
‘อาการหมดไฟ’ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เชื่อว่าหนุ่มสาวชาวออฟฟิศหลายคนคงต้องเคยเจอกันมาบ้างแล้ว หลายคนก็มีวิธีแก้ปัญหาในแบบของตัวเอง บางคนปรึกษาเพื่อนหรือครอบครัว บางคนก็ออกไปหากิจกรรมข้างนอกทำเพื่อให้ความรู้สึกหมดไฟหายไป อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่รู้สึกหมดไฟในการทำงาน แต่ยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดี บทความนี้จึงได้รวบรวม 4 หนังฮอลลีวูดชื่อดังที่จะมาช่วยเติมไฟในการทำงานให้คุณ รับรองได้ว่าหากดูหนังจบแล้วล่ะก็ คุณจะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ กลับไปแน่นอน ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกัน!
1. The Intern
ใครที่คิดว่าพอแก่แล้วคงทำอะไรมากไม่ค่อยได้ บอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิด! เพราะหนังเรื่องนี้กำลังพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าไม่มีใครแก่เกินไปที่จะทำในสิ่งที่อยากทำ! The Intern บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘เบน วิทเทคเคอร์’ คุณปู่วัยเกษียณที่ชีวิตลองทำมาหลายอย่างแล้วแต่ก็เหมือนยังขาดอะไรไป เมื่อวันหนึ่งเบนได้เจอประกาศรับสมัครพนักงานฝึกงานอาวุโสของบริษัทขายเสื้อผ้าออนไลน์ เขาก็ค้นพบว่าการกลับไปทำงานเป็นสิ่งที่เขาอยากทำอีกครั้ง จนในที่สุดเขาก็ได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาทำงานร่วมกับ จูลส์ ออสติน ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทโดยตรง และนี่เองก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาต้องเข้าไปช่วยเหลือเธอทั้งเรื่องของการทำงานและให้คำปรึกษาชีวิตต่าง ๆ แก่เธอ ผ่านมุมมองของคนวัยเกษียณอย่างเขา หนังเรื่องนี้นอกจากจะให้ข้อคิดดี ๆ ในการทำงานอย่างการเป็นหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานที่ดีควรจะเป็นอย่างไรแล้ว ยังสอดแทรกประเด็นอื่น ๆ ในชีวิตให้เราได้ขบคิดด้วยเช่นกัน อาทิ ปัญหาชีวิตคู่ การเปิดใจยอมรับ การตั้งเป้าหมาย ฯลฯ รับรองได้เลยว่าเมื่อดูจบแล้ว จะต้องกลายเป็นหนังในดวงใจของหลาย ๆ คนแน่นอน
2. The Secret Life of Walter Mitty
The Secret Life of Walter Mitty เป็นหนัง feel good เกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘วอล์เตอร์ มิตตี้’ ทำงานเป็นผู้ลำดับภาพนิ่งให้กับบริษัทนิตยสาร Life เขาเป็นเหมือนพนักงานออฟฟิศทั่วไปที่ขยันทำงาน ไม่เคยมีปากมีเสียงกับใคร แต่นั่นก็ทำให้เขากลายเป็นเหมือนหุ่นยนต์ไร้ตัวตนในที่ทำงานไปด้วย เขาแอบปลื้ม เชอริล เมลฮอฟฟ์ พนักงานในบริษัทเดียวกัน แต่ก็ดูเหมือนว่าความรักของเขาจะเป็นเพียงแค่ดอกฟ้ากับหมาวัดเท่านั้น จนวันหนึ่งวอล์เตอร์ต้องพบกับข่าวร้ายว่าบริษัทนิตยสารของเขากำลังจะปิดตัวลง และเขาก็จะต้องตกงาน แต่สิ่งที่เขาต้องทำครั้งสุดท้ายก่อนไป คือ การตามหาภาพถ่ายหน้าปกนิตยสารเล่มสุดท้ายที่เขาดันทำหายไป และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาต้องก้าวออกจาก comfort zone และเดินทางไปรอบโลกเพื่อตามหามัน หนังเรื่องนี้พยายามสอนเราว่า บางครั้งเหตุการณ์แย่ ๆ ก็มีข้อดี คือ การทำให้เรากล้าออกจาก comfort zone มากขึ้นและได้ลงมือในสิ่งที่เราไม่เคยคิดจะทำ ซึ่งบางทีคุณอาจจะได้เจอเรื่องดี ๆ ระหว่างทาง แบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็เป็นได้
3. Spotlight
หากใครที่ชอบหนังสายอาชีพ อาจจะถูกใจหนังเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย เพราะ Spotlight เป็นหนังเกี่ยวกับสายอาชีพนักข่าวในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ที่พยายามจะเปิดโปงประเด็นบาทหลวงล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายจำนวนหนึ่งในเมือง ซึ่งการเปิดโปงครั้งนี้อาจจะต้องสั่นสะเทือนต่อศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองบอสตัน ดังนั้นหนังเรื่องนี้กำลังพยายามแสดงให้เห็นว่าการทุ่มเทให้กับงานและการมีจรรยาบรรณต่ออาชีพของเรา นอกจากจะเป็นผลดีต่อตัวเราเองแล้ว มันยังช่วยเหลือคนอื่น ๆ ในสังคมด้วย ทั้งนี้ Spotlight ได้กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย แถมยังการันตี 2 รางวัลใหญ่ จากเวทีระดับโลกอย่างเวทีออสการ์ครั้งที่ 88 ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม อีกด้วย รับรองได้ว่าคุณจะสนุกตลอดการรับชมหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน!
4. Devil Wears Prada
Devil Wears Prada เป็นหนังคอมเมดี้ดราม่าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของเด็กจบใหม่อย่าง แอนเดรีย แซคส์ ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักหนังสือพิมพ์ แต่โลกก็ดันเล่นตลกกับเธอให้ต้องมาทำงานเป็นผู้ช่วยของ มิแรนด้า พรีสท์ลี่ บก.ของนิตยสารแฟชั่น Runway แทน ซึ่งในที่ทำงานนี้เธอต้องรับมือกับความเนี้ยบและความโหดของเจ้านายของเธอ แถมยังต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมในที่ทำงานให้ได้ หลังเข้าทำงาน แอนเดรียเริ่มมีบุคลิกและนิสัยที่เปลี่ยนไป และนั่นก็เริ่มกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอและแฟน รวมไปถึงเพื่อนและครอบครัวด้วย ซึ่งหนังจะแสดงให้เห็นว่าเธอในวัยเพียง 23 ปีจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างไรบ้าง หากคุณเป็นเด็กจบใหม่หรือเพิ่งเข้าสู่โลกการทำงานได้ไม่นาน บอกเลยว่าคุณต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้! เพราะสิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้จากการดูเรื่องนี้ คือ หากคุณตั้งใจทำงานและคอยพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา สักวันสิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้คุณทำตามฝันได้สำเร็จ
ความรู้สึกเหนื่อยกับการทำงาน ไร้แรงบันดาลใจ หรือ มองไม่เห็นอนาคตของตัวเองว่าจะเป็นยังไง ก็คงเป็นความรู้สึกที่น่าหงุดหงิดใจสำหรับเราไม่ใช่น้อย แต่เราเผลอลืมคิดไปหรือเปล่าว่า เพราะเราเป็นมนุษย์ บางครั้งก็ต้องมีความรู้สึกแบบนี้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา อย่าลืมว่าไม่มีใครในโลกนี้ที่จะมีไฟหรือแอคทีฟได้ตลอดเวลา บางครั้งการพักผ่อนและให้เวลากับมันก็เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรทำมากที่สุด และบางทีการได้ดูหนังดี ๆ สักเรื่อง อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ในการจุดไฟในการทำงานหรือในการใช้ชีวิตให้กับตัวคุณอีกครั้งก็เป็นได้
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเว็บไซต์
Kapook https://movie.kapook.com/spotlight
Bangkok Biz News https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/688817
Major Cineplex https://www.majorcineplex.com/news/review-the-intern
Minimore https://minimore.com/b/G3w72/2
IMDB https://www.imdb.com/title/tt0458352/plotsummary