อัปเดตสถานการณ์เศรษฐกิจไทยล่าสุด ฟื้นตัวจากโควิดรั้งท้ายทั่วโลก นักลงทุนต่างชาติแห่หนี
โควิดยังอ่วม
เมื่อนานมาแล้วหลายคนต่างคาดฝันว่า ‘ไทย’ จะกลายเป็น ‘เสือตัวที่ 5’ ของเอเชีย จากการมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาฐานผลิตใหม่ให้อุตสาหกรรมที่ได้รับการลงทุนจากต่างชาติโดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งภาครัฐก็ยังมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากเพื่อรองรับการเติบโต กระนั้นก็ตามความฝันในการเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชียก็เริ่มจะกลายเป็นเพียงความฝันที่ไกลออกไป ซึ่งเป็นผลมาจากเสถียรภาพทางการเมืองที่มีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะการเกิดรัฐประหารอยู่เกือบทุกสมัย ทำให้เศรษฐกิจไทยต้องหยุดชะงัก อีกทั้งในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาก็ยังต้องเผชิญกับวิกฤติอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ต้มยำกุ้ง สงครามการค้าจีนอเมริกา ลากยาวมาจนถึงวิกฤติโควิด ที่ดูเหมือนจะเป็นวิกฤติที่เลวร้ายที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเริ่มถดถอยลงเรื่อย ๆ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเราอาจไม่ได้เป็นจุดสนใจของโลกในมิติการค้าและการลงทุนอีกต่อไป
เมื่อเร็ว ๆ นี้ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ได้จัดทำบทวิเคราะห์ของ KKP Research เพื่อจับสัญญาณความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ซึ่งพบว่า ปัจจุบันเรากำลังสูญเสียในหลายมิติ อาทิ การส่งออก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการเติบโตเศรษฐกิจไทยมาตลอด การส่งออกของไทย ณ ตอนนี้กลับพบว่า เราฟื้นตัวได้ช้ากว่าหลายประเทศทั่วโลก อีกทั้งไทยยังมีสัดส่วนของสินค้าส่งออกที่ใช้เทคโนโลยีต่ำกว่าประเทศคู่แข่ง ซึ่งอาจทำให้แข่งขันสู้ประเทศอื่น ๆ ไม่ได้ ประกอบกับต่างชาติกำลังมีความต้องการสินค้าไทยลดน้อยลงอีกด้วย นอกจากนี้ได้ด้านการลงทุน ก็พบว่า ไทยเริ่มไม่ใช้เป้าหมายหลักในการเข้าไปลงทุนแล้วอันเป็นสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น ค่าแรงเพิ่มสูงขึ้นแต่ผลิตภาพยังไม่ถูกพัฒนาไปมาก หรือ การลงทุนและการพัฒนาด้าน R&D ของไทยที่จะช่วยเพิ่มผลิตภาพยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ทำให้นักลงทุนไม่สนใจไทยอีกต่อไป ล่าสุดสำนักข่าวกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ช่อง 7HD) ได้รายงานว่า KKP Research มีการปรัดลด GDP คาดการณ์ของประเทศไทยในปี 64 ไว้เหลือเพียง 0.5% เท่านั้น (จากเดิมประเมินไว้ที่ 1.5%) และอาจถึงขั้นติดลบ ถ้าสถานการณ์โควิดยังไม่คลี่คลายและยังไม่สามารถควบคุมการระบาดในพื้นที่ใจกลางสำคัญอย่างกรุงเทพฯได้ ซึ่งมูลค่าเศรษฐกิจของกรุงเทพคิดเป็นสัดส่วนถึง 50% ของ GDP ทั้งประเทศ แต่ปัจจุบันกรุงเทพกลับเป็นพื้นที่ที่มีโควิดระบาดหนักที่สุด
มิหนำซ้ำสถานการณ์โควิด-19 ก็เป็นอีกตัวเร่งสำคัญที่ส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ ตลอดระยะเวลาที่เราต้องเผชิญกับโควิด-19 มาเกือบ 2 ปี มีองค์กร Global COVID-19 หรือ (GCI) ได้จัดคะแนนดัชนีและจัดอันดับ 180 ประเทศว่าแต่ละประเทศมีประสิทธิภาพในการรับมือกับโรคระบาดโควิด-19 ได้มากน้อยเพียงใด โดยการจัดอันดับก็ได้รับการรับรองโดย WHO แล้ว ซึ่งการจัดอันดับนี้ได้ใช้ข้อมูลตลอดระยะเวลา 90 วันที่ผ่านมา อีกทั้งเกณฑ์ในการจัดอันดับก็มาจากสองส่วนด้วยกันคือ 70% มาจาก 1. จำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาอยู่ต่อจำนวนประชากร 2. สัดส่วนผู้ที่หายดีจากโควิดต่อจำนวนเคสผู้ติดเชื้อยืนยัน 3. การตรวจเชื้อกลุ่มตัวอย่างต่อจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยัน และ 4. มาตรการของแต่ละประเทศในการตรวจหาเชื้อ และอีก 30% ที่เหลือมาจาก ได้มาจาก ดัชนี Triple Billions Indices ของ WHO และ ส่วนเนื้อหาย่อยจากดัชนีข้อมูลความเสี่ยงของ the European Commission (EU) Disaster Risk Management Knowledge Centre (DRMKC)* ทั้งนี้ผลการจัดอันดับ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ในตลอดระยะเวลา 90 วันที่มีการจัดอันดับและใช้ข้อมูล จึงพบว่า ประเทศไทยอยู่เกือบรั้งท้ายสุดในตาราง โดยอยู่ลำดับที่ 176 จากทั้งหมด 180 อันดับ นอกจากนี้สำนักข่าว Nikkei ชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นก็ได้มีการจัดอันดับการจัดการโควิด-19 ของ 120 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีการจัดอันดับทุกสิ้นเดือน โดยพิจารณาจากการจัดการของโรคระบาดโควิด-19 ที่ดูยอดผู้ติดเชื้อยืนยัน อัตราการกระจายวัคซีนให้กับประชาชน และ การใช้ชีวิตของคนในสังคม ผลการจัดอันดับล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมาก็พบว่า ประเทศอยู่อันดับที่ 119 จาก 120 อันดับ ซึ่งการจัดอันดับของทั้ง 2 แหล่งนี้ ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าประเทศไทยล้มเหลวแค่ไหนในการรับมือกับโรคระบาดที่เกิดขึ้น ซึ่งหากไม่มีการรีบแก้ไขอย่างถูกวิธี ก็อาจส่งผลกระทบอื่น ๆ ตามมา โดยเฉพาะความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติแน่นอน
ทั้งนี้สัญญาณที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มหนีออกจากประเทศไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูได้จากภาพรวมตลาดหุ้นไทย ปี 64 ซึ่งพบว่าเพียง 5 เดือนแรก นักลงทุนต่างชาติก็ทยอยขายหุ้นไทยไปแล้วถึง 66,870 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่เปิดเผยโดย นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต่อสำนักข่าวเดลินิวส์ มิหนำซ้ำ KKP research ยังรายงานอีกด้วยว่าสัดส่วนการลงทุนจากต่างชาติในประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน อย่าง มาเลเซีย อินโดนิเซีย เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ ลดลงเหลือ 10% เท่านั้นในช่วงปี พ.ศ. 2559 – 2562 จากที่เคยสูงกว่า 30% ในช่วงปี พ.ศ. 2547 – 2550 ที่น่าสลดใจกว่านั้น การช่วยเหลือต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยในช่วงสถานการณ์โควิดก็น่าผิดหวังเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการรายงานข่าวของประชาชาติธุรกิจเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่า มีนักธุรกิจต่างชาติพร้อมครอบครัวรอรับการฉีดวัคซีนในประเทศไทยประมาณ 5 แสนคน ซึ่งหลายคนก็รอไม่ไหว จึงบินกลับไปฉีดที่ประเทศตัวเองแทน แน่นอนว่าความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนมาให้กับคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย (ซึ่งส่วนมากก็ทำงานและจ่ายภาษีให้กับประเทศเรา) ก็ทำให้ต่างชาติที่เป็นนักลงทุนหลายคนไม่น้อยรู้สึกผิดหวังและอาจขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนต่อในประเทศไทย อย่างไรก็ตามสถานทูตบางประเทศอย่างเช่น ฝรั่งเศส จีน ก็ได้มีการแก้ไขปัญหาโดยดำเนินการจัดหาวัคซีนและฉีดให้กับพลเมืองที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะเห็นสถานทูตจากประเทศอื่น ๆ ดำเนินตาม เพราะ ทนความล่าช้าของการฉีดวัคซีนให้กับต่างชาติที่อยู่ในไทยไม่ไหว ที่แม้แต่คนไทยจำนวนมากเองก็ยังไม่ได้รับการฉีดด้วยเช่นกัน
จากความล้มเหลวในการรับมือทั้งโรคระบาดโควิด-19และเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนให้พิจารณาดูแล้วว่าประเทศไทยจะอยู่รอดไปได้อีกนานแค่ไหน ภายใต้การบริหารของรัฐและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องชุดนี้? ทุกวันนี้ประชาชนต่างต้องตื่นขึ้นมาเพื่อพบกับข่าวยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นเกินหมื่นราย อัตราการเสียชีวิตเพราะโควิดที่ไม่มีท่าทีที่จะลดลง ร้านค้าและบริษัทหลายรายต้องปิดกิจการ ผู้คนตกงานเพิ่มมากขึ้น และน่าสะเทือนใจกว่านั้นคือ การต้องเห็นข่าวคนล้มตายเพราะโควิด-19 เป็นจำนวนมากทั้งในบ้านและตามพื้นที่สาธารณะ นี่เป็นสิ่งที่รัฐไทยควรต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ลงไปมากกว่านี้
*โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมของการจัดอันดับ GCI ได้ที่ https://covid19.pemandu.org/about/
**หมายเหตุ: 1) ผลการจัดอันดับของ GCI ในบทความนี้อ้างอิงตามวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ในรอบ 90 วันที่ผ่านมาที่มีการจัดอันดับและใช้ข้อมูล 2) ผลการจัดอันดับของ Nikkei ในบทความนี้อ้างอิงตามวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ที่มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Nikkei
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเว็บไซต์
Agenda https://www.agenda.co.th/featured/5-tiger-economies-today/
Brandinside https://brandinside.asia/turing-point-of-thai-export-kkp-research/
CH7 News https://news.ch7.com/detail/501815
Covid19.pemandu.org https://covid19.pemandu.org/gci-ranking/
Dailynews https://www.dailynews.co.th/economic/848324/
https://brandinside.asia/nikkei-index-ranks-countries-on-covid-management/
KKP Research https://drive.google.com/file/d/1YvPEV7EcROjyHbFyxWBDqE4LWjLBbM7X/view?usp=sharing
Nikkei https://asia.nikkei.com/Spotlight/The-Big-Story/Nikkei-COVID-19-Recovery-Index
Prachachat https://www.prachachat.net/general/news-687002
Thai PBS https://news.thaipbs.or.th/content/293595
The Standard https://thestandard.co/global-covid-19-index-thailand/