อัปเดตสถานการณ์ #หมูแพง ในไทย พร้อมวิธีแก้ปัญหาของรัฐบาล
แม้จะเริ่มต้นปีใหม่ได้เพียงไม่แค่กี่วัน แต่ชาวไทยจำนวนมากกลับต้องกุมขมับอีกครั้งเมื่อค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะค่าอาหารที่ร้านค้าจำนวนมากต่างทยอยกกันขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง โดยเหตุผลในการขึ้นราคาครั้งนี้เนื่องมาจากต้นทุนวัตถุดิบ โดยเฉพาะ ‘เนื้อหมู’ มีราคาสูงขึ้น ซึ่งสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจได้เผยรายงานของกรมการค้าภายในว่า ราคาเนื้อหมูเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 175 บาท แต่ในตลาดมีราคาเฉลี่ยสูงถึง 200 บาทแลยทีเดียว แน่นอนว่าทั้งเจ้าของฟาร์มหมู พ่อค้าคนกลาง ร้านขายเนื้อหมู ร้านอาหาร ประชาชนทั่วไปต่างก็ได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน ทั้งนี้สถานการณ์ #หมูแพง ในไทยจะเป็นอย่างไร แล้วรัฐบาลมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร WiSE & OK ได้อัปเดตข้อมูลมาให้ไว้ในบทความนี้แล้ว!
สาเหตุที่ทำให้หมูมีราคาแพงขึ้น หลัก ๆ แล้วมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนในการเลี้ยงหมู ไม่ว่าจะเป็นค่าดูแลหมู ค่าอาหารของหมู รวมไปถึงค่าดูแลหมูเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดสุกร อีกทั้งยังไม่รวมต้นทุนอื่น ๆ ที่เจ้าของฟาร์มยังต้องรับภาระอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นทำให้เจ้าของฟาร์มหมูต่างเลี้ยงหมูน้อยลง ปริมาณหมูก็น้อยลงไปด้วย จึงจำเป็นต้องขึ้นราคาเพื่อจะได้ไม่ขาดทุน ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาที่ประเทศไทยมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด ไม่ว่าจะเป็นอนุญาตให้นั่งรับประทานในร้านอาหารได้ หรือ เปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงทำให้ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม ต่างต้องการเนื้อหมูมาเป็นวัตถุดิบ เมื่อความต้องการของหมูมีมากขึ้น ประกอบกับเนื้อหมูมีน้อยลง ก็ทำให้ราคาสูงขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ผลของการเกิดโรคระบาดในสุกรก็ทำให้จำนวนของหมูแม่พันธุ์ลดลงเหลือเพียงประมาณ 550,000 ตัวเท่านั้น จากเดิมมีมากกว่า 1 ล้านตัว ดังนั้นแล้วพอหมูราคาแพงขึ้น พ่อค้าแม่ค้าต่างก็ต้องปรับราคาขึ้นไปตาม ๆ กัน ส่วนคนที่เป็นผู้บริโภคก็ต้องจ่ายค่าอาหารมากกว่าเดิม หรือหากจ่ายเท่าเดิม ก็อาจเจอกับปริมาณหมูที่น้อยลง
แน่นอนว่าเมื่อประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อนจากราคาหมูที่แพงขึ้น นายกฯประยุทธ์ ก็ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งแก้ปัญหาหมูแพงตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง เพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภคและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังสั่งให้มีการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งปลอดดอกเบี้ยและดอกเบี้ยต่ำ เพื่อจูงใจให้ผู้เลี้ยงหมูกลับเข้ามาในระบบโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้หารือร่วมกับกรมปศุสัตว์พร้อมมีคำสั่งห้ามส่งออกหมูที่มีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2565 ชั่วคราว เพื่อให้ปริมาณหมูในประเทศมีเพิ่มขึ้น ในส่วนของมาตรการอื่น ๆ ที่รัฐกำลังเข้ามาเร่งแก้ไข #หมูแพง เช่น งดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษีของค่าอาหารสัตว์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ และกำกับการขายเนื้อหมูไม่ให้ได้กำไรเกินควร
เรียกได้ว่าปัญหา #หมูแพง คงเป็นแบบทดสอบแรก ๆ ในปีพ.ศ. 2565 ที่รัฐบาลไทยต้องเร่งแก้ไขปัญหาก่อนที่ประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนไปมากกว่านี้และเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาสินค้าอื่น ๆ ทยอยขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นแล้วหากทุกฝ่ายต่างร่วมมือช่วยกันและปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราคาหมูก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว ซึ่งหลังจากนี้คนไทยก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าปัญหาหมูแพงจะพบเจอกับบทสรุปอย่างไร!
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเว็บไซต์
Voice TV https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/photos/a.131804224847/10162507018189848/
Bangkok Biznews https://www.bangkokbiznews.com/business/980823
The Matter https://thematter.co/brief/164193/164193